สนใจเทรดออนไลน์

สมัครเทรดออนไลน์

Morning Report 21 กันยายน 2563
แนะแนวทางการลงทุน

    ทองคำดีดตัวขึ้นเช้าวันนี นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หนุนราคาทองคำดีดตัวขึ้น นักลงทุนยังสามารถเก็งกำไรทิศทางขาขึ้นได้

 Date 21 September 2020
 Commodity Gold
 Buy/Sell รอซื้อ
 Entry จุดซื้อ 1,940
 Target 1,965
Stoploss 1,928
Level  แนวรับ
(Support)
 แนวต้าน
(Resistance)
 L1 1,940 1,965
 L2 1,935 1,970
 L3 1,930 1,976
สรุปแนวโน้มช่วงเช้า

   ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (18 ก.ย.) โดยดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันแล้ว และเยนแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อเยนในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในยุโรป และสหรัฐยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจามาตรการกระตุ้นด้านการคลังเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคระบาดดังกล่าว

   มุมมองทองคำภาคเช้า ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (18 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงช่วยหนุนราคาทองด้วย

   นักลงทุนยังต้องติดตามตัวเลขที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ซึ่งได้แก่ ดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เฟด ชิคาโก ยอดขายบ้านมือสอง ดัชนีภาคการผลิต สาขาริชมอนด์ ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการบิการ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน ยอดขายบ้านใหม่ ดัชนีภาคการผลิตสาขาแคนซัส คำสั่งซื้อสินค้าคงทน เป็นต้น

Market Price
สภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

   ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (18 ก.ย.) โดยดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันแล้ว และเยนแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อเยนในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในยุโรป และสหรัฐยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจามาตรการกระตุ้นด้านการคลังเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคระบาดดังกล่าว

สรุปข่าวเศรษฐกิจ
สหรัฐฯ: สหรัฐประกาศคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ แม้ไม่ได้รับแรงสนับสนุนจากนานาชาติ

   สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้งเมื่อวานนี้ แม้ไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาคมโลก ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็น "การกดดันขั้นสูงสุด" ต่ออิหร่าน โดยนายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศระบุว่า สหรัฐได้ตัดสินใจทำเช่นนี้ เนื่องจากอิหร่านไม่สามารถรักษาสัญญาตามข้อตกลงนิวเคลียร์ได้ ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติก็ไม่สามารถต่ออายุการห้ามซื้อขายอาวุธต่ออิหร่านได้เช่นกัน นายปอมเปโอกล่าวว่า "การตัดสินใจครั้งนี้จะทำให้โลกปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม และประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติ (UN) จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้ด้วยเช่นเดียวกัน" แถลงการณ์ยังระบุอีกด้วยว่า "หากประเทศสมาชิก UN ฝ่าฝืนหรือไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าวได้ สหรัฐก็พร้อมที่จะให้หน่วยงานในประเทศดำเนินมาตรการบางอย่าง เพื่อให้แน่ใจว่าอิหร่านจะไม่สามารถหาประโยชน์จากกิจกรรมต้องห้ามเหล่านี้"

   ก่อนหน้านี้ รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กดดันให้อิหร่านเปิดการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาด้านนิวเคลียร์ ขีปนาวุธ และประเด็นที่น่ากังวลอื่น ๆ ขณะที่ท่าทีระหว่างสหรัฐและอิหร่านตึงเครียดอย่างหนัก หลังจากที่กองทัพสหรัฐได้สังหารนายพลกัสซิม โซเลมานี ผู้บัญชาการทหารคนสำคัญของอิหร่าน เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

จีน: จีนตอบโต้สหรัฐทันควัน ออกข้อบังคับบริษัทต่างชาติเป็นภัยต่อความมั่นคง

   กระทรวงพาณิชย์ของจีนได้ออกข้อบังคับใหม่ในวันนี้สำหรับบริษัทที่อยู่ในรายชื่อ "นิติบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ" โดยมุ่งเป้าไปที่บริษัทต่างชาติที่จีนระบุว่าเป็นอันตรายต่ออธิปไตย, ความมั่นคง หรือผลประโยชน์ด้านการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้ บริษัทที่อยู่ในรายชื่อดังกล่าว อาจถูกห้ามนำเข้าหรือส่งออกสินค้าจากจีน รวมทั้งอาจถูกห้ามไม่ให้ลงทุนในจีนด้วย

   นอกจากนี้ จีนยังกำหนดมาตรการอื่นๆ ได้แก่ การเรียกเก็บค่าปรับ, การห้ามเข้าประเทศ และการเพิกถอนใบอนุญาตทำงานหรือการพำนักอาศัยของพนักงานบริษัทต่างชาติเหล่านั้น จีนประกาศข้อบังคับใหม่ดังกล่าว หลังจากล่าสุดเมื่อวานนี้ สหรัฐได้ประกาศห้ามประชาชนดาวน์โหลดแอปพลิเคชันติ๊กต็อก (TikTok) และวีแชท (WeChat) ของจีน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์นี้เป็นต้นไป และห้ามแอปจีนทั้งสองดังกล่าวใช้บริการอินเทอร์เน็ตที่จำเป็นในสหรัฐโดยพิจารณาจากความกังวลด้านความปลอดภัยและข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน กระทรวงพาณิชย์ของจีนประณามการสั่งห้ามดังกล่าว และเรียกร้องให้สหรัฐยุติพฤติกรรมเพื่อกลั่นแกล้ง และการกระทำที่ไม่ถูกต้อง พร้อมทั้งระบุในแถลงการณ์ว่า "จีนจะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของบริษัทจีนอย่างถึงที่สุด" ก่อนหน้านี้จีนยืนยันที่จะจัดทำรายชื่อบริษัทที่เป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ของจีน หลังจากที่สหรัฐกำหนดมาตรการคว่ำบาตรและขึ้นบัญชีดำกับหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน แม้ว่าจีนได้ประกาศกฎข้อบังคับต่างๆ ดังกล่าว แต่ก็ยังไม่เคยมีการเผยแพร่รายชื่อบริษัทต่างชาติเหล่านั้น โดยในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา โกลบอล ไทม์ส ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลจีนรายงานว่า จีนอาจกำหนดให้บริษัทต่างๆ อาทิ แอปเปิล, ควอลคอมม์ และซิสโก อยู่ในรายชื่อดังกล่าวเพื่อตอบโต้กับการที่สหรัฐขึ้นบัญชีดำหัวเว่ย

ดัชนีชี้วัด
วันที่ ประเทศ เวลา รายการ มีผลต่อทอง ประมาณการณ์ ตัวเลขครั้งก่อน
21 ก.ย. 63 USA 19.30 ดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เฟด ชิคาโก 1.88 1.18
22 ก.ย. 63 EUR 21.00 ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ยูโรโซน -14.7 -14.7
USA 21.00 ยอดขายบ้านมือสอง 5.965 M 5.860 M
USA 21.00 ดัชนีภาคการผลิต สาขาริชมอนด์ 12 18
23 ก.ย. 63 EUR 13.00 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเยอรมนี จากสถาบัน Gfk -1.0 -1.8
EUR 14.30 ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต เยอรมันนี 52.6 53.0
EUR 14.30 ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการบิการ เยอรมันนี 53.0 50.8
EUR 15.00 ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต ยูโรโซน - 51.7
EUR 15.00 ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการบิการ ยูโรโซน - 50.1
USA 20.00 ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย 0.6 % 0.9 %
USA 20.45 ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต 53.2 53.6
USA 20.45 ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ 54.7 54.8
24 ก.ย. 63 EUR 15.00 ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเยอรมนี 93.8 92.6
USA 19.30 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน 880 K 860 K
USA 21.00 ยอดขายบ้านใหม่ 875 K 901 K
USA 22.00 ดัชนีภาคการผลิตสาขาแคนซัส 13 14
25 ก.ย. 63 USA 19.30 คำสั่งซื้อสินค้าคงทน 11.2 % 1.5 %
  • gcap gold facebook
  • gcap gold youtube
  • gcap gold line
  • gcap gold line