ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลักในวันนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% เป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี ทั้งนี้ เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมวานนี้ และส่งสัญญาณว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยจนถึงปี 2566    นอกจากนี้ เฟดระบุว่าจะยังคงถือครองพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยเฟดจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 8 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือนเพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาดการเงิน 
        มุมมองทองคำภาคบ่าย  ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบที่เริ่มทำมุมแคบลง เบื้อต้นมองว่าตลาดยังไม่ตอบสนองต่อนโยบายของเฟดที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีการออกมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม กราฟรายสี่ชั่วโมงยังเคลื่อนไหวไร้ทิศทาง  
       นักลงทุนยังต้องติดตามตัวเลขที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ซึ่งได้แก่   ดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เฟด ชิคาโก  ยอดขายบ้านมือสอง  ดัชนีภาคการผลิต สาขาริชมอนด์  ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย  ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต   ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการบิการ   จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน  ยอดขายบ้านใหม่  ดัชนีภาคการผลิตสาขาแคนซัส  คำสั่งซื้อสินค้าคงทน เป็นต้น                   
                 

          

                   

     ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (18 ก.ย.) โดยดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันแล้ว และเยนแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อเยนในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในยุโรป และสหรัฐยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจามาตรการกระตุ้นด้านการคลังเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคระบาดดังกล่าว
         

     นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้หารือกันทางโทรศัพท์เมื่อคืนนี้ โดยผู้นำทั้งสองได้เห็นพ้องที่จะยกระดับการเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่น และจะทำงานร่วมกันเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  นายซูงะได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวภายหลังการสนทนาร่วมกับปธน.ทรัมป์ว่า "ผมได้กล่าวกับปธน.ทรัมป์ว่า การเป็นพันธมิตรถือเป็นเสาหลักของการสร้างสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ขณะที่ปธน.ทรัมป์ก็กล่าวกับผมว่า สหรัฐและญี่ปุ่นควรยกระดับการเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น และปธน.ทรัมป์เองก็ยินดีที่จะให้ผมโทรศัพท์ถึงท่านเพื่อปรึกษาหารือได้ตลอด 24 ชั่วโมง"  
     ผู้นำญี่ปุ่นและสหรัฐยังได้หารือกันเกี่ยวกับสถานการณ์เกาหลีเหนือ และแนวทางในการรับมือกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันว่าจะให้ความร่วมมือในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19, แจกจ่ายวัคซีน และแบ่งปันแนวทางในการรักษาโรคโควิด-19 โดยการสนทนาเมื่อคืนนี้ใช้เวลาประมาณ 25 นาที  เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยกับสำนักข่าวเกียวโดว่า ในระหว่างการสนทนาครั้งนี้ นายซูงะได้ร้องขอให้ปธน.ทรัมป์ยังคงสนับสนุนญี่ปุ่นในภารกิจการนำชาวญี่ปุ่นที่ถูกเกาหลีเหนือลักพาตัวไปในช่วงทศวรรษที่ 1970 และ 1980 กลับสู่ประเทศ  
     นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองยังได้แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการเปิดเสรีอินโด-แปซิฟิก และได้ตกลงกันว่าจะร่วมมือกันเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจโลกให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น
 

     กระทรวงสาธารณสุขอินเดียเปิดเผยว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อินเดียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 86,961 ราย ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศพุ่งขึ้นแตะระดับ 5,487,580 ราย ขณะเดียวกันพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1,130 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 87,882 ราย  สำหรับผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลหลังได้รับการรักษาจนหายดีแล้วอยู่ที่ 4,396,399 ราย ส่วนผู้ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมีจำนวน 1,003,299 ราย  
     สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ข้อมูลจากสภาวิจัยทางการแพทย์แห่งอินเดีย (ICMR) ระบุว่า นับจนถึงวันอาทิตย์ที่ 20 ก.ย. อินเดียได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนทั่วประเทศไปแล้ว 64,392,594 ราย และเฉพาะวันอาทิตย์เพียงวันเดียวนั้น มีผู้เข้ารับการตรวจหาเชื้อจำนวนมากถึง 731,534 ราย  ทั้งนี้ อินเดียเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐ
 

     สถานีโทรทัศน์ NBC News เปิดเผยเอกสารลับซึ่งบ่งชี้ถึงวิธีการที่เกาหลีเหนือใช้ในการฟอกเงินผ่านบริษัทที่ตั้งขึ้นใหม่เพื่อบริหารจัดการสินทรัพย์โดยไม่เปิดเผยชื่อเจ้าของ (shell company) ภายใต้ความช่วยเหลือของบริษัทจีน ด้วยการโยกเงินผ่านธนาคารที่มีชื่อเสียงในสหรัฐ  ข้อมูลดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งที่ปรากฎในเอกสารลับของเครือข่ายสืบสวนอาชญากรรมทางการเงินสหรัฐ หรือ FinCen ซึ่งระบุว่า ธุรกรรมการเงินที่ดำเนินการโดยบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือนั้น บางครั้งจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงไม่กี่วันหรือไม่กี่ชั่วโมง และไม่มีหลักฐานที่มาทางการเงินอย่างชัดเจนปรากฏให้เห็น  นายกราแฮม บาร์โรว์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันการฟอกเงินจากลอนดอนกล่าวว่า การทำธุรกิจกรรมประเภทนี้ถูกจัดว่า "มีความเสี่ยงสูง" และแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการปกปิดต้นกำเนิดของเงินที่ผิดกฎหมาย