ประธานาธิบดีชิลี “เซบาสเตียน ปิเญรา” ตัดสินใจสั่งยกเลิกการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมใหญ่ระดับนานาชาติ 2 รายการ จากเหตุประท้วงต่อต้านรัฐบาล ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลง

เมื่อวันที่ 30 ต.ค.62 นายเซบาสเตียน ปิเญรา ประธานาธิบดีชิลี แถลงผ่านทางโทรทัศน์ตัดสินใจยกเลิกการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับนานาชาติครั้งสำคัญ 2 เวที ซึ่งชิลีได้เป็นเจ้าภาพคือ การประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปก ซัมมิท (APEC) ในวันที่ 16-17 พ.ย.นี้ และการประชุมโลกร้อนของสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 25 (COP 25) ตามกำหนดในวันที่ 2-13 ธ.ค.นี้ และขณะนี้ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะมีการย้ายไปจัดการประชุมที่ประเทศอื่นได้หรือไม่

หลังการประท้วงในชิลีผ่านมา 12 วันแล้ว เป็นการประท้วงใหญ่เพื่อเรียกร้องความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ และการให้บริการสาธารณะที่ดีขึ้น แต่การประท้วงกลับมีการทำลายข้าวของและวางเพลิง ทำให้ต้องปิดให้บริการรถไฟใต้ดินหลายสายด้วยกัน

ประธานาธิบดีชิลี เปิดเผยว่า แม้การตัดสินใจดังกล่าวจะทำให้รู้สึกเจ็บปวด แต่รัฐบาลจำเป็นต้องทำเพื่อฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยในประเทศ ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด

นับเป็นครั้งแรกที่ชิลีต้องยกเลิกการเป็นเจ้าภาพการประชุมใหญ่ระดับนานาชาติ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศในฐานะชาติที่มีเสถียรภาพและการพัฒนาทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ขณะที่ผู้ประท้วงยังคงออกมาชุมนุมในกรุงซานเตียโก เพื่อต่อต้านรัฐบาลจากความล้มเหลวในนโยบายเศรษฐกิจ

ขอบคุณเครดิตจาก : WorkpiontNews