สนใจเทรดออนไลน์
สมัครเทรดออนไลน์
หลักการวิเคราะห์ที่ใช้กันในปัจจุบัน มีอยู่ 4 ตัวหลักคือ P/BV P/E PEG และ discount cash flow
P/BV (Price-to-book-value)
การคำนวณโดย นำราคาของหุ้นตั้งแล้วหารด้วย BV ซึ่งค่า BV ก็คำนวณได้มาจากการนำเอามูลค่าตามบัญชี (ส่วนของผู้ถือหุ้นของกิจการ) ไปหารด้วยจำนวนหุ้น ถ้าตัวเลขออกมาต่ำกว่า 1 แปลว่า หุ้นตัวนั้น ซื้อขายกันถูกกว่าบัญชี “แต่อย่างไรก็ตาม ต้องดู ปัจจัยอื่นๆประกอบด้วย P/BV ต่ำกว่า 1 ไม่ได้แปลว่าถูกเสมอไป” ข้อเสียของวิธีดังกล่าว ที่สำคัญคือ มูลค่าตลาด จะมีมูลค่าแตกต่างจาก มูลค่าทางบัญชีเสมอ สรุปง่ายๆ คือ “มูลค่าจะไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง”
P/E (Price-to-earnings)
การคำนวณโดยการนำราคาของหุ้นตั้งแล้วหารด้วย EPS ซึ่งค่า EPS ก็คำนวณได้มาจากการนำเอากำไรสุทธิไปหารด้วยจำนวนหุ้น และไปเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรมหาหุ้นถูก และหุ้นแพง หากคิดมูลค่า P/E นั้น อาจจะไม่ถูกต้องเสมอไป อาจจะใช้ PEG เพื่อดูหุ้นประกอบร่วมด้วย
PEG
“PEG = P/E หารด้วย growth ของ EPS เพื่อเทียบประสิทธิภาพของการเติบโตของกิจการด้วย” เช่น P/E แพง แต่ PEG ทำให้ดูได้ว่า พอเทียบกับ EPS ที่โตแล้วมันแพงเพราะกิจการจะโต หรือ แพงเพราะกิจการเพียงแค่มีการดันราคาขึ้นมา ควรใช้ปัจจัยอื่นๆพิจารณาประกอบด้วย
DCF (Discount cash flow)
การคิดลดมูลค่ากระแสเงินสด คือการพยากรณ์ FCFF/FCFE ล่วงหน้า และคิดลดกลับมาเป็นมูลค่าปัจจุบัน ซึงวิธีนี้ กลับเป็นวิธีที่คนนิยมใช้กันแพร่หลาย
การประเมินมูลค่าของวิธีนี้ออกเป็น 2 ส่วนคือ CF ในแต่ละปี และ terminal growth ซึ่งกำหนดให้กระแสเงินสดโตแบบคงที่จนถึงปิดกิจการ สิ่งที่ทำให้ความระมัดระวังของวิธีนี้ เพราะหากคำนวน growth พลาดนิดเดียวจะส่งผลราคาผิดไปเยอะมากๆดังนั้นกิจการนี้เหมาะสมกับหุ้นที่เติบโตแบบมั่นคง รายได้ประจำ และคงที่ เช่นธุรกิจ ค้าปลีก เป็นต้น
ดังนั้น ไม่มีวิธีใดที่แม่นที่สุด เพียงแต่ต้องหาวิธีที่เหมาะสมในแต่ละกรณีว่าอุตสาหกรรมใดเหมาะกับการวิเคราะห์แบบใหน ไม่มีวิธีการประเมินใดที่สามารถใช้ได้ทุกกรณี
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.finnomena.com/econfinvip/relative-approach-discount-cash-flow/
Copyright © 2018 www.gcap.co.th All rights reserved.