ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (16 ส.ค.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า กรรมการเฟดยังคงให้ความสำคัญกับการควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.22% แตะที่ 103.4350
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 146.2300 เยน จากระดับ 145.6500 เยนในวันอังคาร (15 ส.ค.) ขณะเดียวกันก็แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.8800 ฟรังก์ จากระดับ 0.8788 ฟรังก์, แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3535 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3492 ดอลลาร์แคนาดา และแข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.9211 โครนา จากระดับ 10.8578 โครนา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0879 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0904 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2725 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2705 ดอลลาร์
เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 25-26 ก.ค.เมื่อคืนนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนหนึ่งได้แสดงความกังวลว่าการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากเกินไปนั้นอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับความเสี่ยง ในขณะที่กรรมการเฟดส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญกับการควบคุมเงินเฟ้อ โดยกล่าวว่าแม้เงินเฟ้อเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลง แต่ก็ยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% โดยตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม เป็นการวัดการปรับตัวของภาคโรงงาน เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 3.9% สู่ระดับ 1.452 ล้านยูนิตในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.448 ล้านยูนิต
ส่วนในวันนี้ สหรัฐมีกำหนดเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ค.จาก Conference Board
ขอบคุณข้อมูลจาก ryt9