ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังมีรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 24 ปีไอ   เอชเอส มาร์กิตซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงินเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซน พุ่งขึ้นสู่ระดับ 62.5 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 57.9 ในเดือนก.พ. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 62.4 นอกจากนี้ ดัชนี PMI เดือนมี.ค.ยังทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลในเดือนมิ.ย. 2540    

     มุมมองภาคบ่าย ราคาทองขยับตัวเล็กน้อยเนื่องจากวอลลุมการซื้อขายจำนวนน้อย ราคาดีดตัวเมื่อกลางดึกคืนวานหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 719,000 รายในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 27 มี.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 675,000 ราย  นอกจานี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวลงด้วย  

     นอกจากนี้นักลงทุนยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในคืนนี้ ได้แก่ การจ้างงานนอกภาคการเกษตร   อัตราการว่างงาน  รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงการทำงาน  เป็นต้น  

     ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังมีรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 24 ปีไอ   เอชเอส มาร์กิตซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงินเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซน พุ่งขึ้นสู่ระดับ 62.5 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 57.9 ในเดือนก.พ. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 62.4 นอกจากนี้ ดัชนี PMI เดือนมี.ค.ยังทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลในเดือนมิ.ย. 2540    
     อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงจับตาภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทานและการใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ในยุโรป ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อดัชนี PMI ในไม่ช้านี้ โดยยุโรปกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่สาม ส่งผลให้รัฐบาลหลายประเทศกลับมาบังคับใช้มาตรการควบคุมที่เข้มงวดอีกครั้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคบริการที่สำคัญในยูโรโซน และต้องอาศัยภาคการผลิตในการขับเคลื่อนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ



   

     นายโจว หลาน ผู้อำนวยการฝ่ายตลาดการเงินของธนาคารกลางจีน (PBOC) ออกแถลงการณ์เตือนถึงความเสี่ยงด้านการเงินภายในประเทศอันเกิดจากปัญหาที่สะสมมาเป็นเวลานานหลายปี รวมไปถึงผลกระทบเฉียบพลันจากความไม่แน่นอนในต่างประเทศ โดยนายโจวระบุว่า ความเสี่ยงเหล่านี้อาจรวมถึงการที่ตลาดหุ้นและตราสารหนี้ผันผวนอย่างหนัก และการที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผิดนัดชำระหนี้
     แถลงการณ์ของนายโจวถือเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลจีนที่ออกมาเตือนถึงความเสี่ยงเกี่ยวกับตลาดการเงินภายในประเทศ  นายโจวกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประกอบกับความผันผวนของกระแสเงินทุนระหว่างประเทศ ได้ส่งผลกระทบเฉียบพลันต่อตลาดการเงินภายในประเทศจีน และกล่าวเสริมว่าราคาบ้านที่พุ่งสูงขึ้นอย่างร้อนแรงในตลาดบางพื้นที่นั้น ได้สร้างแรงกดดันค่อนข้างมาก อีกทั้งความเสี่ยงของการผิดนัดชำระหนี้รวมถึงความเสี่ยงด้านอื่นๆ ของธุรกิจสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็กถึงขนาดกลางนั้นก็อยู่ในระดับที่ควรเฝ้าระวัง  
     ทั้งนี้ เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้ประกาศกำหนดเป้าหมายตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) สำหรับปี 2564 ที่ระดับกว่า 6% โดยนักเศรษฐศาสตร์หลายรายได้ให้ความเห็นว่า การกำหนดเป้าหมายในระดับไม่สูงนักเช่นนี้ จะช่วยให้ฝ่ายกำหนดนโยบายของรัฐบาลจีนสามารถแก้ปัญหาระยะยาวได้ เช่น ปัญหาหนี้สะสม
 

     นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จีนไม่มีแนวโน้มที่จะลดการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐลงอย่างมากในเร็วๆนี้ แม้ว่าความตึงเครียดด้านการค้าและการเมืองระหว่างจีนและสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูงก็ตาม
     นักวิเคราะห์มองว่า ความเสี่ยงที่จีนอาจจะชะลอการซื้อหรือขายพันธบัตรสหรัฐจากทั้งหมดที่ถืออยู่ในขณะนี้มูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์นั้น จะสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน ในขณะที่ทั้งสองประเทศยังคงมีความขัดแย้งกันในเรื่องภาษีการค้า รวมถึงความตึงเครียดด้านการเมือง และประเด็นสิทธิมนุษยชน  ความวิตกกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐเกิดขึ้นในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีในเดือนมี.ค. และยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ถึงการชะลอตัวลง  แมตต์ เกิร์ทเคน นักวิเคราะห์จากบริษัทบีซีเอ รีเสิร์ชกล่าวว่า หากประเด็นต่างๆ เช่น ไต้หวันหรือฮ่องกงปะทุขึ้นมาอีกครั้ง จีนก็อาจจะใช้พันธบัตรสหรัฐเป็นเครื่องมือในการส่งสัญญาณบางอย่าง อย่างไรก็ดี หากเกิดสถานการณ์ดังกล่าว ประเทศอื่นๆก็อาจจะเข้าซื้อพันธบัตรสหรัฐเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของโลก ซึ่งจะช่วยหนุนความต้องการถือพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งจะช่วยจำกัดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ด้านนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์เปิดเผยรายงานระบุว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนได้ปรับตัวขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากเงินหยวนแข็งค่าขึ้น และจีนได้เพิ่มการลงทุนในพันธบัตรสหรัฐ