ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 เม.ย.) หลังจากนักลงทุนซึมซับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 
      มุมมองภาคบ่าย  ราคาทองคำอ่อนแรงลง  หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและนอกจากนี้สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า อุปสงค์ทองคำโลกในไตรมาส 1/2564 ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากกองทุน ETF ที่ลงทุนในทองคำได้เทขายทองคำออกมา  อย่างไรก็ตามแรงซื้อเก็งกำไรได้ช่วยหนุนการลงทุนในทองคำแท่งและเหรียญทองคำ เพิ่มขึ้น 36% จากปีก่อนหน้านี้
      อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ได้แก่  ต้นทุนค่าจ้างแรงงาน ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล  ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐาน  ดัชนีจัดซื้อจัดจ้างชิคาโก  ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.มิชิแกน เป็นต้น      
 

      ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยและคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามคาด นอกจากนี้ เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจ แม้ระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจแข็งแกร่งขึ้นก็ตาม  

      นายฮันส์ คลูจ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำภูมิภาคยุโรป เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวยุโรปที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีจำนวนมากกว่าประชากรที่ได้รับการยืนยันผลตรวจว่าติดโรคโควิด-19 แล้ว   "ปัจจุบัน ยุโรปมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ยืนยันผลแล้วอยู่ที่ 5.5% ของประชากรทั้งหมด ขณะที่ประชากร 7% ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว" นายคลูจระบุในคำแถลงต่อสื่อมวลชน โดยปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนในยุโรปแล้ว 215 ล้านโดส และราว 16% ของประชากรในประเทศสมาชิกของ WHO ประจำภูมิภาคยุโรปได้รับวัคซีนโดสแรกแล้ว  ปัจจุบันประเทศสมาชิกของ WHO ประจำภูมิภาคยุโรป มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสม 51,506,373 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิตรวม 1,076,173 ราย  แม้ว่าจำนวนผู้ป่วยใหม่ ผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาล และผู้ป่วยเสียชีวิตจะลดลงในช่วงไม่นานนี้ แต่นายคลูจก็ได้ย้ำเตือนประชาชนในภูมิภาคให้ระมัดระวังตนเองและยังต้องตระหนักถึงความจริงที่ว่าวัคซีนเพียงอย่างเดียวไม่สามารถยุติการระบาดใหญ่ได้
      นายคลูจยังใช้โอกาสเนื่องในสัปดาห์การสร้างภูมิคุ้มกันแห่งยุโรป (EIW) ซึ่งตรงกับวันที่ 24 เม.ย.-2 พ.ค. ในปีนี้ ย้ำถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนซึ่งจะสร้างความมั่นใจในการป้องกันโรคที่คุกคามถึงชีวิต โดยอ้างอิงตัวเลขผู้ป่วยโรคหัด 100,000 รายในปี 2562 ซึ่งเป็นผลจากอัตราการฉีดวัคซีนที่ลดลงเมื่อสองปีก่อนหน้า
       สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นอกจากนี้ นายคลูจยังกระตุ้นเตือนระบบสาธารณสุขของภูมิภาค ให้จัดเตรียมการดูแลสุขภาพเบื้องต้นที่จำเป็น ซึ่งรวมถึงการฉีดวัคซีนตามกำหนด เพื่อควบคุมการระบาดใหญ่ไปพร้อมกัน
 

      ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีกำหนดการประชุมร่วมกับประธานาธิบดีมูน แจ อินของเกาหลีใต้ ในวันที่ 21 พ.ค.นี้ ที่ทำเนียบขาว เพื่อย้ำถึงความเป็นพันธมิตรและความสัมพันธ์อันใกล้ชิด
      สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ปธน.มูนเป็นผู้นำต่างประเทศคนที่ 2 ที่ทำเนียบขาวประกาศว่าจะเข้าประชุมกับปธน.ไบเดนแบบพบหน้ากันในสหรัฐ นับตั้งแต่ปธน.ไบเดนเข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค. โดยคนแรกคือนายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซึ่งเดินทางเยือนสหรัฐเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา  นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า "การเดินทางเยือนสหรัฐของปธน.มูนจะเน้นย้ำถึงการเป็นพันธมิตรอันแข็งแกร่งระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้ และความสัมพันธ์ทั้งในเชิงลึกและกว้างระหว่างรัฐบาล ประชาชน และเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ"  นางซากีเสริมว่า ปธน.ไบเดนตั้งใจที่จะทำงานร่วมกับปธน.มูนเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศและขยายความร่วมมืออย่างใกล้ชิด
 

     สำนักงานสถิติแห่งชาติฝรั่งเศส (INSEE) รายงานในวันนี้ว่า เศรษฐกิจในไตรมาส 1/2564 ของฝรั่งเศสขยายตัว 0.4% ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่หดตัวลง 1.4% ในไตรมาส 4/2563  เศรษฐกิจฝรั่งเศสขยายตัวได้ดีกว่าที่บรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวเพียง 0.1% โดยได้ปัจจัยหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการลงทุนที่ปรับตัวขึ้น แม้รัฐบาลใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็ตาม  
      ทั้งนี้ การใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.3% ในไตรมาส 1/2564 โดยฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลง 5.7% ในไตรมาส 4/2563 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ฝรั่งเศสประกาศล็อกดาวน์เป็นเวลานานตลอดเดือนพ.ย.  ขณะที่การลงทุนทางธุรกิจ ทะยานขึ้น 2.2% ในไตรมาส 1/2564 ซึ่งดีกว่าไตรมาส 4/2563 ที่ปรับตัวขึ้น 1.3%