ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังสหรัฐเปิดเผยเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด    
         มุมมองทองคำภาคบ่าย ราคาทองคำโดนแรงเทขายทำกำไรออกมาเป็นระยะหลังจากประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาแข็งแกร่ง นอกจากนี้ราคาทองคํายังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.33% โดยดีดตัวขึ้นจากระดับต่ําสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 126% ซึ่งลงไปทดสอบหลังข้อมูลเศรษฐกิจที่แสดงให้เห็นหลักฐานเพิ่มเติมว่าอัตราเงินเฟ้ออาจแตะระดับสูงสุดแล้ว จนเป็นปัจจัยกดดันทองคําในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย ปัจจัยที่กล่าวมากดดันให้ราคาทองคําร่วงลง ในขณะที่กองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่มขึ้น 1.46 ตัน  
          นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ซึ่งได้แก่  ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.มิชิแกน เป็นต้น   
 

      ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลักในวันนี้ หลังการเปิดเผยยอดค้าปลีกที่สดใส ซึ่งช่วยคลายความวิตกเกี่ยวการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ    นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งดังกล่าวจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)   กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลง 0.8%   
      นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21-22 ก.ย. เพื่อหาสัญญาณการปรับลดวงเงิน QE และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด  
 

       สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) รายงานในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกของอังกฤษปรับตัวลง 0.9% ในเดือนส.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% โดยยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 และทำสถิติลดลงยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ ONS เริ่มบันทึกข้อมูลยอดค้าปลีก  รายงานของ ONS ระบุว่า การปรับตัวลงอย่างเหนือความคาดหมายของยอดค้าปลีกเดือนส.ค.นั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากยอดขายในซูเปอร์มาเก็ตที่ปรับตัวลง เนื่องจากประชาชนเริ่มออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้นหลังจากรัฐบาลประเกาศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19  
      อย่างไรก็ดี ยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ยังคงสูงกว่าระดับของเดือนก.พ. 2563 อยู่ประมาณ 4.6% โดยช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  รายงานระบุว่า ผู้ค้าปลีกในอังกฤษจำนวนมากเผชิญกับความยากลำบากในการรักษาสินค้าให้เต็มสต็อก เนื่องจากปัญหาติดขัดด้านอุปทานที่เป็นผลมาจากภาวะขาดแคลนสินค้าทั่วโลก หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการขาดแคลนพนักงานขับรถบรรทุกในอังกฤษ
 

       นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการทบทวนหลักจริยธรรมของเฟดในเรื่องการทำธุรกรรมทางการเงินอย่างเหมาะสม หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสหลายคนของเฟดได้ทำการซื้อขายหุ้นมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ในปี 2563 และเจ้าหน้าที่อีกบางส่วนมีการลงทุนจำนวนมาก   คำสั่งดังกล่าวของนายพาวเวลเกิดขึ้นหลังจากวุฒิสมาชิกอลิซาเบธ วอรร์เรน ได้ส่งจดหมาย 12 ฉบับถึงประธานเฟดสาขาต่างๆ โดยเรียกร้องให้มีการตรวจสอบด้านจริยธรรมของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดอย่างเข้มงวด  นางวอร์เรนซึ่งเป็นวุฒิสมาชิกจากรัฐแมสซาชูเซตส์สังกัดพรรคเดโมแครตได้เรียกร้องให้ประธานเฟดแต่ละสาขาใช้มาตรการสั่งห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดถือครองหุ้นและซื้อขายหุ้น  เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานเฟดทั้ง 12 เขตได้เปิดเผยเอกสารทางการเงินซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีการลงทุนซื้อขายหุ้นในปี 2563 โดยประธานเฟดบางคนมีสถานะการเงินนับล้านดอลลาร์โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงพอร์ตโฟลิโอ  โฆษกรายหนึ่งของเฟดเปิดเผยกับสำนักข่าว CNBC ว่า นายพาวเวลได้สั่งให้มีการทบทวนหลักจริยธรรมเกี่ยวกับการถือครองสินทรัพย์ทางการเงินและการทำธุรกรรมทางการเงินของบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด เนื่องจากเล็งเห็นว่า ความไว้วางใจของชาวอเมริกันมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเฟดในการทำภารกิจที่สำคัญ และการทบทวนหลักจริยธรรมในครั้งนี้จะช่วยกำหนดแนวทางเกี่ยวกับการคุมเข้มกฎระเบียบและมาตรฐานต่างๆ  เอกสารที่มีการเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วระบุว่า นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัสมีการลงทุนซื้อขายหุ้นเป็นจำนวนมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ซึ่งรวมถึงการลงทุนในหุ้นของบริษัทแอปเปิล, แอมะซอน และเดลต้า แอร์ไลน์

     สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งเป็นศูนย์กลางอีคอมเมิร์ซทางตะวันออกของจีน มียอดค้าปลีกออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้  สำนักพาณิชย์มณฑลเจ้อเจียงเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกออนไลน์ของเจ้อเจียงในช่วงเดือนม.ค.-ส.ค. แตะ 1.38 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 15.1% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า  ชาวเจ้อเจียง ซึ่งเป็นมณฑลที่ตั้งของอาลีบาบา (Alibaba) ยักษ์ใหญ่วงการอีคอมเมิร์ซจีน ใช้จ่ายเงินราว 7.34 แสนล้านหยวนสำหรับการชอปปิงออนไลน์ในช่วง 8 เดือนแรก ซึ่งเพิ่มขึ้น 17.5% เมื่อเทียบปีต่อปี โดยเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สื่อสาร และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นหมวดหมู่สินค้ายอดนิยม หากวัดจากยอดจำหน่ายออนไลน์  ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกออนไลน์ของจีนในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 19.7% เมื่อเทียบปีต่อปี แตะระดับ 8.12 ล้านล้านหยวน ซึ่งยังคงเป็นภาคส่วนที่โดดเด่นของเศรษฐกิจจีน

     บริษัทไฟเซอร์ อิงค์เปิดเผยว่า วัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ของบริษัทที่ฉีดให้กับประชาชนในอิสราเอลนั้น มีประสิทธิภาพ 95% ในการป้องกันโรคโควิด-19 หลังจากที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 มาแล้วหกเดือน   ข้อมูลที่ไฟเซอร์ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐนั้นระบุว่า แม้ประสิทธิภาพของวัคซีนชนิด mRNA จะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป แต่การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ช่วยเพิ่มการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันได้ในระดับเดียวกับหลังการฉีดวัคซีนโดสที่ 2 โดยไฟเซอร์ได้รวบรวมข้อมูลดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-30 ส.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาเพิ่มขึ้นในอิสราเอล  ไฟเซอร์ระบุว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ประชาชนในโครงการฉีดวัคซีนของอิสราเอลนั้นบ่งชี้ว่า อาการไม่พึงประสงค์ (reactogenicity) ของผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 นั้นคล้ายคลึงกับที่พบหลังจากการฉีดวัคซีนสองโดสแรก