สนใจเทรดออนไลน์

สมัครเทรดออนไลน์

Morning Report 22 พฤศจิกายน 2564
แนะแนวทางการลงทุน

       ราคาทองคำปิดตลาดอ่อนตัวลงได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น นอกจากนี้แรงขายทำกำไรจากปัจจัยทางเทคนิค ยังกดดันราคาให้อ่อนตัวลงราคาเคลื่อนไหวในโซนแนวรับแล้ว สถานะฝั่งซื้อแนะถือเพื่อรอการดีดตัวปิดทำกำไร  อย่างไรก็ดีควรตั้งจุด Stop Loss ไว้

 Date 22 rพฤศจิกายน 221
 Commodity Gold
 Buy/Sell รอซื้อ
 Entry จุดซื้อ 1,8ุ39
 Target 1,858
Stoploss 1,825
Level  แนวรับ
(Support)
 แนวต้าน
(Resistance)
 L1 1,839 1,858
 L2 1,834 1,863
 L3 1,828 1,868
สรุปแนวโน้มช่วงเช้า

     ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (19 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากความต้องการซื้อสกุลเงินปลอดภัยเพิ่มขึ้น ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19   
     มุมมองทองคำภาคเช้า  ราคาทองถูกกดดันจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น โดยดอลลาร์ได้แรงหนุนในฐานะสกุลเงินปลอดภัย หลังจากออสเตรียซึ่งเป็นสมาชิกยูโรโซน ประกาศมาตรการล็อกดาวน์ทั่วไประเทศเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นของโรคโควิด-19  ราคาต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ โดยปรับตัวลงตามราคาน้ำมันที่ดิ่งลงอย่างหนัก และยังถูกกดดันจากการที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบราว 16 เดือน
     นอกจากนี้ นักลงทุนยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในรอบสัปดาห์ นี้ได้แก่  กิจกรรมทางเศรษฐกิจ เฟด ชิคาโก  ยอดขายบ้านมือสอง  ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต  ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ  คำสั่งซื้อสินค้าคงทน  GDP ประมาณการครั้งที่สอง  ดุลการค้า  ดัชนีสินค้านำเข้า  ดัชนีสินค้าส่งออก  จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน  ดัชนีสินค้าคงลังภาคค้าส่ง  ยอดขายบ้านใหม่  รายได้ส่วนบุคคล  รายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล  ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล  ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล  ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.มิชิแกน เป็นต้น
 

Market Price
สภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

         ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (19 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากความต้องการซื้อสกุลเงินปลอดภัยเพิ่มขึ้น ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  

สรุปข่าวเศรษฐกิจ
สหรัฐฯ: สหรัฐ-ไต้หวันเตรียมจัดเจรจาทางเศรษฐกิจรอบ 2 ในสัปดาห์หน้า

       กระทรวงต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐและไต้หวันเตรียมจัดการเจรจาทางเศรษฐกิจรอบที่ 2 ในวันจันทร์ที่ 22 พ.ย. หลังดำเนินการเจรจารอบแรกเมื่อปีที่ผ่านมา ท่ามกลางแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากจีน     สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คำประกาศดังกล่าวมีขึ้นไม่กี่วันหลังจากการประชุมทางออนไลน์ระหว่างประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ซึ่งนายสีกล่าวเตือนภายหลังจากการประชุมว่า การที่สหรัฐส่งเสริมเอกราชของไต้หวันนั้นเป็นการ "เล่นกับไฟ"    
      แถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศระบุว่า นายโฆเซ เฟอร์นันเดซ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงต่างประเทศด้านความร่วมมือ การเติบโตทางเศรษฐกิจ พลังงาน และสิ่งแวดล้อมของสหรัฐจะเป็นผู้นำเจรจาเรื่องความร่วมมือด้านความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐกับไต้หวันครั้งที่ 2 ในวันจันทร์นี้  
      ขณะเดียวกัน นางหวัง เหมยฮวา รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ และนายอู๋ เจิ้งจง รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะเป็นตัวแทนของไต้หวันในการเข้าร่วมการเจรจาครั้งนี้    ทั้งนี้ การเจรจาจะดำเนินการภายใต้การดูแลของสถาบันอเมริกาในไต้หวัน (AIT) และสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป (TECRO) ในสหรัฐ หรือสถานทูตโดยพฤตินัย
 

จีน: นักวิเคราะห์คาดจีนตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ LPR วันนี้ หวังคุมความเสี่ยงในภาคอสังหาฯ

      นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) จะคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ทั้งประเภท 1 ปีและ 5 ปีในวันนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมความเสี่ยงในภาคอสังหาริมทรัพย์   นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนจะคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีเอาไว้ที่ระดับ 3.85% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีไว้ที่ระดับ 4.65% ซึ่งหากเป็นไปตามคาดการณ์ ก็นับเป็นเดือนที่ 19 ติดต่อกันที่ธนาคารกลางจีนตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทั้งสองประเภท ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีถือเป็นดัชนีวัดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของภาคเอกชน ส่วนอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีเป็นดัชนีวัดทิศทางอัตราดอกเบี้ยของภาคครัวเรือน ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเพื่อการกู้จำนอง
      นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ในการควบคุมความเสี่ยงในภาคอสังหาริมทรัพย์แล้ว นักวิเคราะห์คาดว่าอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ธนาคารกลางจีนจะตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ในวันนี้มาจากการที่ธนาคารกลางได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในโครงการเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยโครงการ MLF เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ธนาคารกลางจีนใช้ในการบริหารจัดการสภาพคล่องระยะยาวในระบบธนาคาร และถือเป็นดัชนีชี้วัดทิศทางของอัตราดอกเบี้ย LPR
 

อังกฤษ: อังกฤษร่วมผสมโรงสหรัฐ เล็งคว่ำบาตรกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในจีน

        หนังสือพิมพ์เดอะ ไทม์สรายงานในวันนี้ว่า นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษกำลังพิจารณาที่จะคว่ำบาตรทางการทูตสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่งของจีนในปีหน้า เพื่อประท้วงจีนในประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน  เดอะ ไทม์สรายงานว่า รัฐบาลอังกฤษกำลังหารือกันอย่างจริงจัง ขณะที่นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษระบุว่า รัฐบาลสนับสนุนการคว่ำบาตร   
        ทั้งนี้ หากรัฐบาลอังกฤษตัดสินใจคว่ำบาตรกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว บรรดารัฐมนตรีของอังกฤษก็จะไม่เข้าร่วมงานดังกล่าว แม้ว่าเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำจีนจะเข้าร่วมงานก็ตาม  รายงานข่าวระบุว่า นักการเมือง 5 คนของพรรคอนุรักษ์นิยมได้เขียนจดหมายถึงนายจอห์นสันเพื่อเรียกร้องให้เขาสั่งห้ามเจ้าหน้าที่ด้านการทูตของอังกฤษเข้าร่วมงานกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่จัดขึ้นในจีนในเดือนก.พ.ปีหน้า  ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ยืนยันเมื่อวันพฤหัสบดี (18 พ.ย.) ว่า สหรัฐกำลังพิจารณาคว่ำบาตรทางการทูตกับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่งของจีน
 

ดัชนีชี้วัด
วันที่ ประเทศ เวลา รายการ มีผลต่อทอง ประมาณการณ์ ตัวเลขครั้งก่อน
22 พ.ย.64 USA 20.30 กิจกรรมทางเศรษฐกิจ เฟด ชิคาโก 0.90 -0.13
EUR 22.00 ความเชื่อมั่นผู้บริโภคยูโรโซน -5.5 -4.8
USA 22.00 ยอดขายบ้านมือสอง - 7.0 %
23 พ.ย.64 EUR 15.30 ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต เยอรมันนี 56.7 57.8
EUR 15.30 ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ เยอรมันนี 51.5 52.4
EUR 16.00 ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต ยูโรโซน 57.2 58.3
EUR 16.00 ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ ยูโรโซน 53.6 54.6
USA 21.45 ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต 59.0 58.4
USA 21.15 ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ 59.1 58.7
24 พ.ย.64 EUR 16.00 ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมันนี สถาบัน Ifo 96.7 97.7
USA 20.30 คำสั่งซื้อสินค้าคงทน 0.3% -0.4 %
USA 20.30 GDP ประมาณการครั้งที่สอง 2.1 % 2.0 %
USA 20.30 ดุลการค้า $-94.6 B $-96.3 B
USA 20.30 ดัชนีสินค้านำเข้า 0.9 % 0.5 %
USA 20.30 ดัชนีสินค้าส่งออก -4.6 % -4.7 %
USA 20.30 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน 264 K 268 K
USA 20.30 ดัชนีสินค้าคงลังภาคค้าส่ง 0.8 % 1.1 %
USA 22.00 ยอดขายบ้านใหม่ 790 K 800 K
USA 22.00 รายได้ส่วนบุคคล 0.2 % -1.0 %
USA 22.00 รายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล 1.0 % 0.6%
USA 22.00 ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล 0.6 % 0.3 %
USA 22.00 ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล 0.4 % 0.2 %
USA 22.00 ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.มิชิแกน 66.9 66.8
  • gcap gold facebook
  • gcap gold youtube
  • gcap gold line
  • gcap gold line