สนใจเทรดออนไลน์
สมัครเทรดออนไลน์
ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นจากแรงช้อนซื้อหลังจากสัญญาทองร่วงลงอย่างหนักติดต่อกันหลายวัน ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ในเบื้องต้นยังมองแค่รีบาวน์ระยะสั้น ๆ แนะปิดทำกำไร
Date | 25 rพฤศจิกายน 221 |
Commodity | Gold |
Buy/Sell | รอขาย |
Entry | จุดขาย 1,814 |
Target | 1,774 |
Stoploss | 1,830 |
Level | แนวรับ (Support) |
แนวต้าน (Resistance) |
L1 | 1,774 | 1,814 |
L2 | 1,765 | 1,819 |
L3 | 1,757 | 1,825 |
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) หลังจากที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนให้มีการเร่งปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งจะทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้
มุมมองทองคำภาคเช้า ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากแรงช้อนซื้อหลังจากสัญญาทองร่วงลงอย่างหนักติดต่อกัน 4 วันทำการ โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำปิดตลาดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2564 ที่ขยายตัว 2.1% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งแรกที่ระดับ 2.0% ขณะที่ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 71,000 ราย สู่ระดับ 199,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 2512 ส่วนดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 5.0% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2533
ตลาดทองคำนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 25 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day)
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) หลังจากที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนให้มีการเร่งปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งจะทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐจำนวนมากในวันพรุ่งนี้ รวมทั้งรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 2-3 พ.ย. ณ เวลา 22.53 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 1.648% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1.998% ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐจำนวนมากในวันพรุ่งนี้ รวมทั้งรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 2-3 พ.ย. นักวิเคราะห์มองว่า การที่นายพาวเวลดำรงตำแหน่งประธานเฟดเป็นสมัยที่ 2 จะส่งผลให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศในวันนี้ว่า สหรัฐจะระบายน้ำมันดิบจำนวน 50 ล้านบาร์เรลออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาด
ทั้งนี้ สหรัฐจะระบายน้ำมันดิบร่วมกับสหราชอาณาจักร จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย ซึ่งถือเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นครั้งแรกในการดำเนินมาตรการดังกล่าว กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า ขณะนี้ SPR มีน้ำมันดิบรวม 604.5 ล้านบาร์เรล และน้ำมันดิบที่ถูกระบายออกมาจะเข้าสู่ตลาดภายในเวลา 13 วัน หลังจากที่ประธานาธิบดีมีคำสั่งดังกล่าว
รัฐบาลอังกฤษแถลงในวันนี้ว่า อังกฤษจะระบายน้ำมันจำนวน 1.5 ล้านบาร์เรลออกสู่ตลาด ในความร่วมมือกับสหรัฐและชาติพันธมิตรเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาด อย่างไรก็ดี น้ำมันจำนวน 1.5 ล้านบาร์เรลดังกล่าวจะเป็นน้ำมันจากสต็อกของภาคเอกชน และการดำเนินการดังกล่าวจะเป็นไปอย่างสมัครใจ และไม่ส่งผลกระทบต่อน้ำมันในคลังสำรองของรัฐบาลแต่อย่างใด ขณะที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) กำหนดให้รัฐบาลจะต้องมีน้ำมันในคลังสำรองเพียงพอสำหรับการบริโภคในประเทศเป็นเวลา 90 วัน
ทางด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศในวันนี้ว่า สหรัฐจะระบายน้ำมันดิบจำนวน 50 ล้านบาร์เรลออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาด ขณะที่รัฐบาลอินเดียประกาศระบายน้ำมันดิบจำนวน 5 ล้านบาร์เรล
ทั้งนี้ สหรัฐจะระบายน้ำมันดิบร่วมกับอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย ซึ่งถือเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นครั้งแรกในการดำเนินมาตรการดังกล่าว กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า ขณะนี้ SPR มีน้ำมันดิบรวม 604.5 ล้านบาร์เรล และน้ำมันดิบที่ถูกระบายออกมาจะเข้าสู่ตลาดภายในเวลา 13 วัน หลังจากที่ประธานาธิบดีมีคำสั่งดังกล่าว ซิตี้กรุ๊ปคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐและชาติพันธมิตรอาจระบายน้ำมันรวม 100-120 ล้านบาร์เรลออกสู่ตลาด โดยสหรัฐจะระบายน้ำมัน 45-60 ล้านบาร์เรล, จีน 30 ล้านบาร์เรล, อินเดีย 5 ล้านบาร์เรล, ญี่ปุ่น 10 ล้านบาร์เรล และเกาหลีใต้ 10 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ดี คาดว่ามาตรการระบายน้ำมันจากคลังสำรองจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันในตลาดเพียง 2-3 สัปดาห์
ทั้งนี้ สหรัฐพยายามโน้มน้าวให้ประเทศต่างๆ ทำการระบายน้ำมันจากคลังสำรอง หลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ปฏิเสธข้อเรียกร้องของสหรัฐที่ต้องการให้มีการเพิ่มการผลิตน้ำมันมากกว่า 400,000 บาร์เรล/วัน
วันที่ | ประเทศ | เวลา | รายการ | มีผลต่อทอง | ประมาณการณ์ | ตัวเลขครั้งก่อน |
---|---|---|---|---|---|---|
22 พ.ย.64 | USA | 20.30 | กิจกรรมทางเศรษฐกิจ เฟด ชิคาโก | 0.90 | -0.13 | |
EUR | 22.00 | ความเชื่อมั่นผู้บริโภคยูโรโซน | -5.5 | -4.8 | ||
USA | 22.00 | ยอดขายบ้านมือสอง | - | 7.0 % | ||
23 พ.ย.64 | EUR | 15.30 | ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต เยอรมันนี | 56.7 | 57.8 | |
EUR | 15.30 | ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ เยอรมันนี | 51.5 | 52.4 | ||
EUR | 16.00 | ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต ยูโรโซน | 57.2 | 58.3 | ||
EUR | 16.00 | ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ ยูโรโซน | 53.6 | 54.6 | ||
USA | 21.45 | ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต | 59.0 | 58.4 | ||
USA | 21.15 | ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ | 59.1 | 58.7 | ||
24 พ.ย.64 | EUR | 16.00 | ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมันนี สถาบัน Ifo | 96.7 | 97.7 | |
USA | 20.30 | คำสั่งซื้อสินค้าคงทน | 0.3% | -0.4 % | ||
USA | 20.30 | GDP ประมาณการครั้งที่สอง | 2.1 % | 2.0 % | ||
USA | 20.30 | ดุลการค้า | $-94.6 B | $-96.3 B | ||
USA | 20.30 | ดัชนีสินค้านำเข้า | 0.9 % | 0.5 % | ||
USA | 20.30 | ดัชนีสินค้าส่งออก | -4.6 % | -4.7 % | ||
USA | 20.30 | จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน | 264 K | 268 K | ||
USA | 20.30 | ดัชนีสินค้าคงลังภาคค้าส่ง | 0.8 % | 1.1 % | ||
USA | 22.00 | ยอดขายบ้านใหม่ | 790 K | 800 K | ||
USA | 22.00 | รายได้ส่วนบุคคล | 0.2 % | -1.0 % | ||
USA | 22.00 | รายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล | 1.0 % | 0.6% | ||
USA | 22.00 | ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล | 0.6 % | 0.3 % | ||
USA | 22.00 | ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล | 0.4 % | 0.2 % | ||
USA | 22.00 | ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.มิชิแกน | 66.9 | 66.8 |
Copyright © 2018 www.gcap.co.th All rights reserved.