ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (10 ม.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในสหรัฐจะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันพุธนี้  
      มุมมองทองคำภาคเช้า  ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (10 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงถึง 1.7% ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปรับลดขนาดของงบดุล ซึ่งจะส่งผลให้สภาพคล่องไหลออกจากตลาดต่าง ๆ รวมถึงตลาดโลหะมีค่า  อย่างไรก็ดีตลาดถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้น 1.803% และดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ดีดตัวขึ้น 0.27% แตะที่ 95.9906 เมื่อคืนนี้   ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย ส่วนการแข็งค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น  
         นักลงทุนยังต้องคอยติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในรอบสัปดาห์ได้แก่ ดัชนีธุรกิจขนาดเล็ก  ดัชนีราคาผู้บริโภค  รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ  จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน  ดัชนีราคาผู้ผลิต  ยอดค้าปลีก  ดัชนีสินค้านำเข้า ดัชนีสินค้าส่งออก  ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม   ดัชนีสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ  ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.มิชิแกน เป็นต้น     
 

       ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (10 ม.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในสหรัฐจะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันพุธนี้  

       นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า เขาไม่คาดว่าการเจรจาระหว่างสหรัฐและรัสเซียในวันนี้จะช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายมีความคืบหน้า ตราบใดที่ยังคงมีความตึงเครียดที่ชายแดนยูเครน  นายบลิงเกนยังเสริมว่า "รัสเซียส่งทหาร 100,000 นายประชิดชายแดนยูเครน และสามารถเพิ่มกำลังพลได้ทุกเมื่อ ดังนั้นถ้าเราต้องการลดความตึงเครียด และให้การเจรจามีความคืบหน้า เรื่องนี้ก็จำเป็นต้องมีการแก้ไข"    "ผมไม่คิดว่าเราจะบรรลุข้อตกลงใดๆในการเจรจา โดยเราจะรับฟังสิ่งที่พวกเขามีความกังวล และพวกเขาก็จะรับฟังในสิ่งที่เรามีความกังวล และเราจะดูว่าการเจรจามีความคืบหน้าหรือไม่ แต่คงเป็นไปได้ยาก ขณะที่ยังคงมีความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้น" นายบลิงเกนกล่าว 
        ทั้งนี้ นายเซอเก ยาบคอฟ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซีย และนางเวนดี เชอร์แมน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศสหรัฐ จะเป็นผู้นำการประชุมความมั่นคงที่กรุงเจนีวาในวันนี้ ท่ามกลางความตึงเครียดกรณีที่รัสเซียอาจบุกโจมตียูเครน  "ในการประชุมครั้งนี้ เราจะขอการรับประกันด้านความมั่นคงจากทางสหรัฐว่านาโตจะไม่แผ่อิทธิพลไปยังทางตะวันออก และจะไม่มีการติดตั้งอาวุธตามชายแดนเพื่อข่มขู่รัสเซีย" นางมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียกล่าว
 

      ภาคธุรกิจจัดเก็บสินค้าในคลังของจีนขยายตัวอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ในเดือนธ.ค. 2564 โดยดัชนีติดตามการพัฒนาของภาคธุรกิจนี้ในเดือนธ.ค. อยู่ที่ 51.6% ลดลงจากเดือนพ.ย. 2.5 จุด   อนึ่ง สถิติข้างต้นมาจากผลสำรวจที่เผยแพร่โดยสหพันธ์โลจิสติกส์และการจัดซื้อแห่งประเทศจีน (CFLP) และบริษัท ซีเอ็มเอสที ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (CMST Development) โดยดัชนีที่สูงกว่าระดับ 50 แสดงถึงการขยายตัว ส่วนที่ต่ำกว่า 50 แสดงถึงการหดตัว   หวัง หย่ง ผู้ช่วยผู้บริหารของซีเอ็มเอสที กล่าวว่า ดัชนีประจำเดือนธ.ค. บ่งชี้ถึงอุปสงค์ด้านบริการจัดเก็บสินค้าที่เพิ่มขึ้น โดยยอดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้นตามช่วงวันหยุดยาวและการส่งเสริมการขายสินค้าอีคอมเมิร์ซ ประกอบกับความต้องการจัดเก็บสินค้าโภคภัณฑ์ช่วงฤดูหนาว  
          นอกจากนี้ ปริมาณธุรกิจในเดือนธ.ค. ยังเพิ่มขึ้น แม้อยู่ในอัตราชะลอตัว โดยดัชนีย่อยของปริมาณธุรกิจอยู่ที่ 51.7% ลดลงจากเดือนก่อน 5.3 จุด ส่วนราคาการจัดเก็บสินค้าในคลังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนีย่อยสำหรับค่าธรรมเนียมเดือนธ.ค. อยู่ที่ 52.9% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.8 จุด    สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีย่อยคาดการณ์กิจกรรมทางธุรกิจในอนาคตอยู่ที่ 50.6% ซึ่งต่ำที่สุดในรอบปี บ่งชี้ว่าภาคธุรกิจนี้อาจเผชิญความผันผวนขณะที่อุปสงค์ลดลงในฤดูหนาว