สนใจเทรดออนไลน์

สมัครเทรดออนไลน์

Afternoon Report 11 มกราคม 2564
แนะแนวทางการลงทุน

          ราคาทองคำปิดบวกเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงก่อนหน้านี้  แต่ในภาพรวมตลาดยังถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้น 1.803% และดัชนีดอลลาร์ที่แข็งค่าอาจทำให้ราคาเกิดการย่อตัวลงในวัน       
   
     

 Date 11 มกราคม 2021
 Commodity Gold
 Buy/Sell รอซื้อ
 Entry จุดซื้อ 1,786
 Target 1,818
Stoploss 1,770
Level  แนวรับ
(Support)
 แนวต้าน
(Resistance)
 L1 1,786 1,818
 L2 1,780 1,824
 L3 1,775 1,829
สรุปแนวโน้มช่วงบ่าย

      ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (10 ม.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในสหรัฐจะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันพุธนี้           
      มุมมองทองคำภาคบ่าย  ราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.08 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระหว่างวันราคาทองคําได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เพื่อ สกัดเงินเฟ้อ สะท้อนการคาดการณ์ล่าสุดจากธนาคารชั้นนําในวอลล์สตรีทหลายแห่ง อาทิ Goldman Sachs ที่คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้  อย่างไรก็ดี เริ่มมีแรงซื้อสลับเข้ามา เนื่องจากเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น ทําให้นัก ลงทุนบางส่วนเข้าซื้อทองคําในฐานะสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ประกอบกับบอนด์ยีลด์ 10 ปีปรับตัวลง  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําไม่เปลี่ยนแปลง สําหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจขนาดเล็กจาก NFB และการแถลงต่อคณะกรรมการการธนาคารประจํา วุฒิสภาของนายพาวเวลล์ในกระบวนการพิจารณาแต่งตั้งนายพาวเวลล์เป็นประธานเฟดสมัยที่ 2
       นักลงทุนยังต้องคอยติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในรอบสัปดาห์ได้แก่  ดัชนีธุรกิจขนาดเล็ก  ดัชนีราคาผู้บริโภค  รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ  จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน  ดัชนีราคาผู้ผลิต  ยอดค้าปลีก  ดัชนีสินค้านำเข้า ดัชนีสินค้าส่งออก  ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม   ดัชนีสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ  ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.มิชิแกน เป็นต้น         
 

Market Price
สภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

      ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (10 ม.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในสหรัฐจะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันพุธนี้           

สรุปข่าวเศรษฐกิจ
ญี่ปุ่น: ผลสำรวจชี้ภาคครัวเรือนญี่ปุ่นเกือบ 80% คาดเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในปีนี้

      ผลสำรวจของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันนี้บ่งชี้ว่า 78.8% ของภาคครัวเรือนญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า เงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นในช่วง 1 ปีนับจากนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 68.2% ในผลสำรวจที่จัดทำขึ้นเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า ค่าครองชีพที่สูงขึ้นเริ่มเปลี่ยนแปลงความคิดของประชาชนเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าในอนาคต
       สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผลสำรวจดังกล่าวซึ่งจัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 5 พ.ย. ? 1 ธ.ค. แสดงให้เห็นด้วยว่า 80.8% ของภาคครัวเรือนคาดการณ์ว่า เงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นในช่วง 5 ปีนับจากนี้ เมื่อเทียบกับ 78.1% ในผลสำรวจที่จัดทำขึ้นในช่วง 3 เดือนก่อนหน้า
ผลสำรวจดังกล่าวสร้างความหวังให้กับความพยายามของ BOJ ในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากประชาชนเปลี่ยนแปลงความคิดเกี่ยวกับภาวะเงินฝืดที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์เงินเฟ้อที่สูงขึ้น  ผลสำรวจนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ BOJ จะนำมาพิจารณาที่การประชุมนโยบายสัปดาห์หน้า เพื่อประเมินว่าต้นทุนวัตถุดิบและเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นกระทบต่อการคาดการณ์เงินเฟ้อของภาคครัวเรือนหรือไม่  ด้านนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการ BOJ เปิดเผยว่า BOJ จะใช้นโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายเป็นพิเศษต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% แม้ว่าธนาคารกลางอื่น ๆ เช่น ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มพิจารณายกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่บังคับใช้เพื่อรับมือวิกฤตการณ์โควิด-19 ก็ตาม
 

Crypto: ตลาดคริปโทระส่ำ เม็ดเงินไหลออกสูงเป็นประวัติการณ์ หลังเฟดส่งสัญญาณเร่งขึ้นดบ.

      รายงานจาก CoinShares ซึ่งเป็นบริษัทจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลระบุว่า มีเม็ดเงินไหลออกจากตลาดผลิตภัณฑ์การลงทุนและกองทุนสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซีจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ถึง 207 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการไหลออกติดต่อกันยาวนานถึง 4 สัปดาห์นับตั้งแต่กลางเดือนธ.ค. 2564 คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 465 ล้านดอลลาร์
      รายงานระบุว่า เม็ดเงินที่ไหลออกจากสกุลเงินบิตคอยน์ซึ่งเป็นสกุลเงินคริปโทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดในโลก มีจำนวนมากถึง 107 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ม.ค.  เจมส์ บัทเทอร์ฟิลล์ นักยุทธศาสตร์ด้านการลงทุนของ CoinShares กล่าวว่า การที่มีเม็ดเงินไหลออกจำนวนมาจากตลาดคริปโทนั้น บ่งชี้ว่านักลงทุนมีปฏิกิริยาต่อรายงานการประชุมเดือนธ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า เฟดมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และจากการที่นักลงทุนมีความกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 
      ทั้งนี้ การใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินของเฟดถือเป็นปัจจัยลบต่อบรรดาสินทรัพย์เสี่ยงซึ่งรวมถึงสกุลเงินคริปโท เนื่องจากการใช้นโยบายดังกล่าวจะส่งผลให้สภาพคล่องอยู่ในภาวะที่ตึงตัวมากขึ้นและทำให้ตลาดมีความผันผวนมากขึ้นด้วย  นับตั้งแต่ต้นปี 2565 บิตคอยน์ร่วงลงเกือบ 10% และในวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 ม.ค.) ราคาบิตคอยน์ดิ่งหลุดจากระดับ 40,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2564  
      สำหรับรายงานการประชุมเฟดเดือนธ.ค.ซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดทั่วโลกนั้น ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นว่า เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มเศรษฐกิจ, ภาวะตลาดแรงงานและเงินเฟ้อ ก็ถือเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วขึ้น หรือรวดเร็วกว่าที่กรรมการเฟดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่กรรมการเฟดบางส่วนมองว่า เป็นเรื่องที่เหมาะสมที่จะเริ่มปรับลดขนาดงบดุลบัญชีของเฟดในทันทีหลังจากที่มีการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย  
 

ดัชนีชี้วัด
วันที่ ประเทศ เวลา รายการ มีผลต่อทอง ประมาณการณ์ ตัวเลขครั้งก่อน
10 ม.ค.65 EUR 17.00 อัตราการว่างงาน ยูโรโซน 7.2 % -7.3 %
USA 22.00 สินค้าคงคลังภาคค้าส่ง 1.2% 2.3%
11 ม.ค.65 USA 18.00 ดัชนีธุรกิจขนาดเล็ก 98.8 98.4
12 ม.ค.65 EUR 17.00 ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ยูโรโซน 0.5 % 1.1%
USA 20.30 ดัชนีราคาผู้บริโภค 0.4 % 0.8 %
USA 20.30 ดัชนีราคาผู้บริโภค (ไม่รวมอาหารและพลังงาน) 0.5 % 0.5 %
13 ม.ค.65 USA 02.00 รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ - -
USA 20.30 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน 205 K 207 K
USA 20.30 ดัชนีราคาผู้ผลิต 0.4 % 0.8 %
USA 20.30 ดัชนีราคาผู้ผลิต (ไม่รวมอาหารและพลังงาน) 0.5 % 0.7 %
14 ม.ค.65 EUR 17.00 ดุลการค้า - €2.4 B
EUR 17.00 ดัชนีสินค้านำเข้า - 4.3 %
EUR 17.00 ดัชนีสินค้าส่งออก - 2.4 %
USA 20.30 ยอดค้าปลีก 0.0 % 0.3 %
USA 20.30 ดัชนีสินค้านำเข้า 0.3 % 0.7 %
USA 20.30 ดัชนีสินค้าส่งออก 0.4 % 1.0 %
USA 21.15 ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม 77.0% 76.8 %
USA 22.00 ดัชนีสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ 1.1 % 1.2 %
USA 22.00 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.มิชิแกน 70.4 70.6
  • gcap gold facebook
  • gcap gold youtube
  • gcap gold line
  • gcap gold line