สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (9 ธ.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 36.4 ดอลลาร์ หรือ 1.94% ปิดที่ 1,838.5 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค.ปีนี้

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 74.6 เซนต์ หรือ 3.02% ปิดที่ 23.99 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 18.5 ดอลลาร์ หรือ 1.78% ปิดที่ 1,018.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 37.30 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 2,290.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.15% สู่ระดับ 91.0892 เมื่อคืนนี้

ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้น และมีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่นๆ

นอกจากนี้ การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นยังทำให้ต้นทุนค่าเสียโอกาส (opportunity cost) ของการถือครองทองคำ ปรับตัวสูงขึ้นด้วย และเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 0.941% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1.686% เมื่อคืนนี้

นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ หลังจากมาตรการล็อกดาวน์ที่สหรัฐนำมาใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดนั้น ได้ส่งผลให้ประชาชนคนตกงานหลายล้านคน

นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้หารือกันเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9.16 แสนล้านดอลลาร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการจัดสรรเงินช่วยเหลือรัฐบาลท้องถิ่นในรัฐต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 โดยพรรคเดโมแครตต้องการให้มีการจัดสรรเงินสนับสนุนรัฐต่างๆ ในขณะที่พรรครีพับลิกันแสดงท่าทีคัดค้าน

ขอบคุณข้อมูลจาก ryt9