สนใจเทรดออนไลน์
สมัครเทรดออนไลน์
FinTech ไม่ได้แปลตามตัวแต่เกิดจากการรวมกันของ 2 คำได้แก่ Financial (การเงิน) และ Technology (เทคโนโลยี) หากแปลตรงตัวจึงหมายถึง เทคโนโลยีทางการเงิน ซึ่งการนำเทคโนโลยีมาบริหารด้านการเงินนั้น สามารถทำได้หลายด้านด้วยกัน ตัวอย่างเทคโนโลยีทางการเงินที่เด่น ๆ ของ Fintech มีดังต่อไปนี้
- บริการด้านหุ้น/การลงทุน เช่น Application สำหรับ ซื้อขายหุ้น/กองทุน หรือการนำเทคโนโลยีมาวิเคราะห์แนวโน้ม ของหุ้นว่าควรซื้อขายเมื่อใด ซึ่งขอไทยที่มีชื่อเสียงได้แก่ StockRadars , Finnomena , Jitta และ SiamSquared Technologies เป็นต้น
- บริการด้านการจ่ายเงินและกระเป๋าเงินออนไลน์ ปัจจุบันให้บริการกันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็น Line pay, True Wallet และ bluepay เป็นต้น
- การระดมทุนออนไลน์ รู้จักกันดีในชื่อ Crowdfunding ซึ่งคือการนำเสนอแผนธุรกิจเพื่อให้คนทั่วโลกให้ทุนมาสาน ต่อ อย่าง Kickstarter หรือ IndieGogo หรือของไทยก็มี Asiola , Dreamaker Equity และ Phoenixict เป็นต้น
ทำไม FinTech ถึงเป็นเทรนด์ในช่วงนี้?
การนำเทคโนโลยีมาใช้กับการเงินและการลงทุนนั้นจริง ๆ มีมานานแล้ว (ไม่ว่าจะเป็นตู้ ATM บัตรเครดิต หรือว่าโปรแกรมซื้อขายหุ้น) กระทั่งมาในยุคปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า Smartphone, โครงข่ายอินเทอร์เน็ตที่แข็งแกร่งขึ้น, การบูมของ Social Media, Tech Startup ฯลฯ ทำให้เกิดเทคโนโลยีทางการเงินใหม่ๆ ขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ก็เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคไปจากเดิมอย่างมาก
จากความสะดวกสบายที่เกิดขึ้นเพราะเทคโนโลยีก็ทำให้การจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น ทำให้มีเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจขยายตัว มีช่องทางการค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ ในขณะที่บริษัทด้านการเงินเจ้าเก่า ๆ ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร หรือบริษัทหลักทรัพย์ ฯลฯ ก็เร่งพัฒนาตัวเองเพื่อไม่ให้โดนเหล่าบริษัทใหม่ๆ เข้ามาแย่งพื้นที่การตลาด
ขอบคุณข้อมูลจาก https://dip-sme-academy.com/knowleagehub
Copyright © 2018 www.gcap.co.th All rights reserved.