“การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล ก่อนตัดสินใจลงทุน” ประโยคแบบนี้เรามักได้ยินและได้เห็นกันอยู่เสมอในเวลาที่เรากำลังมองหาเครื่องมือที่จะนำเงินไปลงทุนอะไรซักอย่างให้งอกเงย เป็นข้อความเตือนใจให้ระมัดระวังในยามที่จะตัดสินใจลงทุน แต่สำหรับนักลงทุนที่รอบรู้และเชี่ยวชาญในการลงทุน มุ่งมั่นเดินหน้าสร้างความมั่งคั่งให้ตัวเองผ่านการนำเงินไปลงทุน คำเตือนทำนองนี้ไม่สามารถส่งผลต่อจิตใจพวกเขาเลย เพราะคำว่า “ศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน” อยู่ภายใต้จิตสำนึกของพวกเขาตลอดเวลา

              ปัจจุบันนี้ สื่อออนไลน์ต่าง ๆ มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนให้แก่ผู้สนใจลงทุนเป็นจำนวนมาก แตกต่างหลากหลายกันไป แต่จะมีนักลงทุนเพียงไม่กี่คนที่รอบรู้ไปทั้งหมด เพราะแต่ละคนก็เชี่ยวชาญการลงทุนในผลิตภัณฑ์การลงทุนที่แตกต่างกันไป การลงทุนในสินทรัพย์ประเภททองคำเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุน ซึ่งมีนักลงทุนหลายคนที่มั่งคั่งจากการนำเงินไปลงทุนในทองคำมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพราะพวกเขามีความรอบรู้เกี่ยวกับการลงทุนในทองคำอย่างดี หรือโดยบังเอิญก็ตาม แต่เขาก็มั่งคั่งร่ำรวยกันไปแล้ว

          สำหรับคนที่กำลังจะเริ่มต้นลงทุนในสินทรัพย์ประเภททองคำ 5 ปัจจัยต่อไปนี้ เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องรู้ก่อนที่จะลงทุนทองคำนั่นเอง

          1. การลงทุนในทองคำคืออะไร

            เชื่อว่าทุกคนคงรู้แล้วว่า “ทองคำ” ก็คือทองรูปพรรณที่จำหน่ายกันในร้านทองที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไปและมีคนเข้าไปซื้อมาสวมใส่เป็นเครื่องประดับสวยงาม แต่ในความหมายของนักลงทุนทองคำ ไม่ได้มีจุดประสงค์หลักในการซื้อมาใส่เพื่อความสวยงามอย่างเดียว แต่เป็นการซื้อมาเพื่อรอเวลาขายทำกำไร ซึ่งสินทรัพย์ที่เกี่ยวกับทองคำยังมียังมีหลากหลายรูปแบบที่สามารถนำเงินไปลงทุนแล้วทำกำไรกลับมาได้ เช่น ทองคำแท่ง กองทุนรวมที่ลงทุนในทองคำ หุ้นของบริษัทเหมืองทองคำ ตราสารอนุพันธ์ทองคำ เป็นต้น ซึ่งราคาสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับทองคำเหล่านี้ จะสะท้อนการขึ้นลงผ่านราคาทองคำในตลาดโลก

          2. ตัวแทนจำหน่ายทองคำเพื่อการลงทุน

            เมื่อทราบว่าสินทรัพย์เกี่ยวการลงทุนทองคำมีอะไรกันบ้างแล้ว มือใหม่จำเป็นต้องทราบว่าเราจะซื้อสินทรัพย์เกี่ยวกับทองคำเหล่านี้เก็บไว้ขายทำกำไรได้จากที่ไหน ซึ่งแน่นอนว่าทองคำที่หยิบจับได้เป็นชิ้นเป็นอัน สามารถหาซื้อและขายได้ด้วยตัวเอง ตามร้านทองหรือบริษัทที่ให้บริการซื้อขายทองคำแท่งทั่วไป แต่สินทรัพย์ทองคำอย่างอื่น เช่น ตราสารอนุพันธ์ทองคำ กองทุนทองคำ หุ้นบริษัทเหมืองแร่ทองคำ อาจจำเป็นต้องซื้อขายผ่านนายหน้า (Broker) ที่ได้รับอนุญาต คงไม่ต้องห่วงว่าจะไปรู้จักเค้าได้อย่างไร หากเราติดตามข้อมูลข่าวสารการลงทุน เราจะพบว่ามีบริษัทนายหน้าการลงทุนจำนวนมาก รับเป็นนายหน้าซื้อขายให้กับนักลงทุนที่สนใจการลงทุนในทองคำ อย่างไรก็ตาม ก็ควรตรวจสอบให้ดี เลือกใช้บริการกับบริษัทที่เรารู้จักดีและน่าเชื่อถือเท่านั้น

          3. ราคาทองคำและค่าธรรมเนียมการซื้อขาย

            ราคาทองคำแต่ละวัน จะถูกอ้างอิงและเคลื่อนไหวขึ้นลงตามราคาตลาดโลก สามารถหาดูได้จากสื่อที่ให้ข้อมูลข่าวสารด้านเศรษฐกิจ การเงิน การธนาคาร จะมีบอกราคาทองคำในแต่ละวัน หากดูแล้วเข้าใจยาก ก็หาดูที่ร้านขายทองคำได้เลย เค้าจะมีบอกราคาทองคำวันนี้ เป็นประกาศไว้เลยว่า ขายออกกับรับซื้อเข้า ทองรูปพรรณบาทละเท่าไหร่ ทองคำแท่งบาทละเท่าไหร่ แต่ร้านทองจะมีการคิดหรือหักค่าธรรมเนียมการซื้อขายแยกต่างหากจากราคาทองที่ประกาศ ถ้าเป็นทองรูปพรรณก็จะเรียกว่าค่ากำเหน็ด แต่ถ้าเป็นทองคำแท่งก็จะเรียกว่าค่าบล็อก ซึ่งนั้นหมายความว่าค่ากำเหน็ดหรือค่าบล็อกที่ต้องจ่าย คือราคาที่ต้องนำไปรวมเป็นต้นทุนของทองคำที่ซื้อขายทุกครั้งที่มีการซื้อขาย ส่วนการซื้อขายสินทรัพย์เกี่ยวกับทองคำประเภทอื่น อาจมีค่าธรรมเนียมเป็นค่าบริการนายหน้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์อยู่ด้วย

          4. กำไรหรือผลตอบแทนการลงทุนทองคำได้จากอะไร

            แน่นอนว่าส่วนต่างของราคาทองคำระหว่างราคาซื้อกับราคาขาย (Capital Gain) จะสะท้อนการกำไรขาดทุนของนักลงทุนอยู่แล้ว แต่สินทรัพย์ที่เกี่ยวกับการลงทุนทองคำ อาจมีเงินปันผล (Yield) จากที่เรานำเงินไปให้เขาลงทุนและได้กำไรอยู่ด้วย เช่น กองทุนทองคำ หุ้นบริษัทเหมืองทองคำ อย่างไรก็ตามการขึ้นลงของทองคำแต่ละวันจะมีส่วนต่างที่น้อยมาก การลงทุนซื้อขายในระยะสั้นๆ เมื่อหักค่าธรรมเนียมแล้วจะไม่ค่อยเห็นผลกำไรเท่าไหร่นัก แต่ถ้าหากถือกันยาว ๆ จะเห็นกำไรได้อย่างเป็นกอบเป็นกำจากทั้ง Capital Gain และ Yield ขึ้นมาทันที  

          5. ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการลงทุนอยู่ตลอดเวลา

นักลงทุนในสินทรัพย์ที่เกี่ยวกับทองคำ ต้องติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการลงทุนอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากข่าวสารแต่ละวันจะส่งผลต่อการขึ้นลงของราคาทองคำได้เป็นอย่างดี และอีกสิ่งหนึ่งที่สะท้อนได้อย่างชัดเจนที่สุด เห็นจะเป็นค่าเงินดอลล่าสหรัฐ (US dollar) ในยามที่ค่าเงิน US dollar อ่อนค่าลง ราคาทองคำจะขึ้นสวนทางกับค่าเงิน แต่ถ้าค่าเงิน US Dollar แข็งค่าขึ้นราคาทองคำก็จะลง สาเหตุก็เพราะนักลงทุนมีการโยกเงินลงทุนสลับไปมาระหว่างค่าเงิน US dollar กับ ทองคำ

          ปัจจัย 5 ประการที่พูดถึงนี้ เป็นปัจจัยพื้นฐานคร่าวๆ ที่นักลงทุนมือใหม่ควรจะต้องรู้ อย่างไรก็ตามเทคนิคการลงทุนในทองคำ ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ลึกลงไปอีกมาก คงไม่สามารถนำมาบอกเล่ากันได้ทั้งหมดภายในบทความเดียวนี้ นักลงทุนมือใหม่ควรศึกษาต่อยอดให้เกิดความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เพื่อให้การลงทุนเกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด และหากจะสร้างกำไรก็จะสามารถสร้างกำไรที่ได้ผลตอบแทนเงินลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด เพราะ “เงินทองเป็นของมีค่า ที่ทุกคนต้องดูแลใส่ใจ”