ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานล่าสุดระบุว่า ความมั่งคั่งของภาคครัวเรือนสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 136.9 ล้านล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนมี.ค. 2564 ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มมีการขยายตัว หลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มบรรเทาลง และจากการที่สหรัฐเริ่มกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง

รายงานของเฟดระบุว่า การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความมั่งคั่งของภาคครัวเรือนพุ่งขึ้น โดยสินทรัพย์ของภาคครัวเรือนปรับตัวขึ้น 3.2 ล้านล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1/2564 ขณะที่มูลค่าอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นราว 1 ล้านล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ ความมั่งคั่งของภาคครัวเรือนสหรัฐเพิ่มขึ้น 5 ล้านล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1/2564 จากระดับของไตรมาส 4/2563

ส่วนงบดุลเงินสด บัญชีเช็ค และบัญชีเงินฝากของภาคครัวเรือน ปรับตัวขึ้นรวมกันราว 8.50 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1 แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 14.5 ล้านล้านดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลออกมาตรการให้ความช่วยเหลือครั้งใหญ่เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคโควิด-19 และช่วยเหลือภาคครัวเรือนของสหรัฐให้ผ่านพ้นวิกฤตดังกล่าว

รายงานของเฟดยังระบุด้วยว่า หนี้สินของภาคครัวเรือนสหรัฐพุ่งขึ้น 6.5% ในไตรมาส 1 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2563 ที่มีการขยายตัว 6.2% เนื่องจากการปล่อยกู้เพื่อการจำนองปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดย ณ วันที่ 31 มี.ค. ภาคครัวเรือนมีหนี้เงินกู้จำนองบ้านอยู่ที่ 11 ล้านล้านดอลลาร์

ขอบคุณข้อมูลจาก ryt9