สนใจเทรดออนไลน์
สมัครเทรดออนไลน์
ทองคำโดนเทขายทำกำไร หลังจากที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นหลังการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและนอกจากนี้แรงขายทางเทคนิคได้กดดันราคาทองคำให้อ่อนตัวลงด้วย อย่าง
ไรก็ตามมองว่านักลงทุนยังสามารถรอเข้าซื้อตามกรอบแนวรับเพื่อเก็งกำไรขาขึ้นได้
Date | 12 April 2021 |
Commodity | Gold |
Buy/Sell | รอซื้อ |
Entry | จุดซื้อ 1,728 |
Target | 1,752 |
Stoploss | 1,715 |
Level | แนวรับ (Support) |
แนวต้าน (Resistance) |
L1 | 1,728 | 1,752 |
L2 | 1,723 | 1,756 |
L3 | 1,717 | 1,761 |
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (9 เม.ย.) โดยปรับตัวขึ้นตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และขานรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
มุมมองทองคำภาคเช้า ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อวันศุกร์ (9 เม.ย.) โดยถูกกดดันจากการที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้น นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐกดดันราคาทองด้วย แต่อย่างไรก็ตามราคาทองคำก็ไม่ได้ปรับตัวลงมากนัก เนื่องจากนักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากข้อพิพาทระหว่างจีนและสหรัฐ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศขึ้นบัญชีดำบริษัทซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของจีนอีก 7 แห่ง โดยอ้างเหตุผลว่า บริษัทเหล่านี้สร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ให้กองทัพจีนใช้ในการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย และอาจสนับสนุนโครงการอาวุธที่มีอาจุภาพทำลายล้างสูง
นอกจากนี้นักลงทุนยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดัชนีธุรกิจขนาดเล็ก NFIB ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีสินค้านำเข้า ดัชนีสินค้าส่งออก เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน ดัชนีภาคการผลิตจากเฟด สาขาฟิลาเดเฟีย ยอดค้าปลีก ดัชนีภาคการผลิตสาขานิวยอร์ก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม สินค้าคงคลังภาคธุรกิจ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ดัชนีเริ่มต้นสร้างบ้าน ใบอนุญาติก่อสร้างที่อยู่อาศัย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.มิชิแกน เป็นต้น
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (9 เม.ย.) โดยปรับตัวขึ้นตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และขานรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พุ่งขึ้น 1.0% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พุ่งขึ้น 4.2% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2554 หลังจากเพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนก.พ. นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PPI จะปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และพุ่งขึ้น 3.8% เมื่อเทียบรายปี
ทั้งนี้ เว็บไซต์ของกระทรวงแรงงานสหรัฐประสบปัญหาขัดข้องทางเทคนิคในวันนี้ ส่งผลให้การเปิดเผยดัชนี PPI ประสบความล่าช้า จากเดิมมีกำหนดเผยแพร่ตัวเลขดังกล่าวในเวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย
นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวให้สัมภาษณ์กับรายการ "60 Minutes" ของสถานีโทรทัศน์ CBS ว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังอยู่ในจุดหักเห (Inflection Point) โดยอธิบายว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงานมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยง หากการเปิดเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วเกินไปส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก ในการให้สัมภาษณ์กับรายการ 60 Minutes ในคืนวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐ (11 เม.ย.) นั้น นายพาวเวลได้แสดงมุมมองในด้านบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ แต่ในขณะเดียวกันก็ได้ส่งสัญญาณเตือนว่า สหรัฐยังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ในขณะนี้ ทั้งนี้ นายเจอโรมยังกล่าวด้วยว่า การที่รัฐบาลสหรัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนนั้น จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวเร็วขึ้น
นอกจากนี้ นายพาวเวลยังให้คำมั่นว่า เฟดจะยังคงดำเนินโยบายเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อไป พร้อมกับส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน เมื่อผู้ดำเนินรายการ 60 Minutes ถามถึงกรณีที่กองทุนเฮดจ์ฟันด์ Archegos Capital Management ผิดนัดชำระหนี้ในการเพิ่มหลักประกันการกู้ยืมเงินเพื่อการลงทุน (Margin Call) จนเป็นเหตุให้ธนาคารเจ้าหนี้หลายแห่งสูญเสียเงินจำนวนมากนั้น นายพาวเวลกล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่พบว่ากรณีดังกล่าวส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพในระบบการเงิน แต่เฟดอาจจะต้องทำการตรวจสอบว่าธนาคารต่างๆ มีความสามารถในการบริหารความเสี่ยงได้ดีเพียงใด
นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีในวันศุกร์ (9 เม.ย.) ว่า เศรษฐกิจของสหภาพยุโรป (อียู) จะฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แม้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็ตาม
นางลาการ์ดเปิดเผยว่า เธอมีความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะกระเตื้องขึ้น ขณะที่ยอมรับว่า การแพร่ระบาดรอบใหม่ของโรคโควิด-19 และมาตรการล็อกดาวน์กำลังส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม นางลาการ์ดกล่าวว่า ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะเป็นไปอย่างรวดเร็วด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ล่าสุดว่า เศรษฐกิจ๘ฮ.อียูจะขยายตัว 4.4% ในปีนี้ หลังจากที่หดตัว 6.6% ในปีที่ผ่านมา อีซีบีและธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ช่วยสนับสนุนด้านการเงินอย่างมากด้วยการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ และซื้อสินทรัพย์หลายล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ มีความวิตกว่า การดำเนินนโยบายการเงินในสหรัฐอาจทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นสู่ระดับที่น่าวิตก ขณะที่นางลาการ์ดได้คาดการณ์ว่า เฟดจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อได้ก่อนอีซีบี
วันที่ | ประเทศ | เวลา | รายการ | มีผลต่อทอง | ประมาณการณ์ | ตัวเลขครั้งก่อน |
---|---|---|---|---|---|---|
12 เม.ย 64 | EUR | 16.00 | ดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ | 77.0 | 76.6 | |
13 เม.ย 64 | EUR | 16.00 | ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ | 77.0 | 76.6 | |
USA | 17.00 | ดัชนีธุรกิจขนาดเล็ก NFIB | 99.0 | 95.8 | ||
USA | 19.00 | ดัชนีราคาผู้บริโภค | 0.5% | 0.4% | ||
USA | 19.00 | ดัชนีราคาผู้บริโภค (ไม่รวมอาหารและพลังงาน) | 0.2 % | 0.1 % | ||
14 เม.ย 64 | EUR | 16.00 | ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม | -0.9 % | 0.8 % | |
USA | 19.30 | ดัชนีสินค้านำเข้า | 0.9 % | 1.3 % | ||
USA | 19.30 | ดัชนีสินค้าส่งออก | 0.9 % | 1.6 % | ||
15 เม.ย 64 | USA | 01.00 | เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ | - | - | |
EUR | 13.00 | ดัชนีราคาผู้บริโภค | 0.5 % | 0.5 % | ||
USA | 19.30 | จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน | 695 K | 744 K | ||
USA | 19.30 | ดัชนีภาคการผลิตจากเฟด สาขาฟิลาเดเฟีย | 43.0 | 51.8 | ||
USA | 19.30 | ยอดค้าปลีก | 5.6 % | -3.0 % | ||
USA | 19.30 | ดัชนีภาคการผลิตสาขานิวยอร์ก | 17.0 | 17.4 | ||
USA | 20.15 | ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม | 2.8 % | -2.2 % | ||
USA | 21.00 | สินค้าคงคลังภาคธุรกิจ | 0.5 % | 0.3 % | ||
USA | 21.00 | ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย | 83 | 82 | ||
16 เม.ย 64 | EUR | 16.00 | ดัชนีราคาผู้บริโภค | 0.9 % | 0.2 % | |
USA | 19.30 | ดัชนีเริ่มต้นสร้างบ้าน | 1.620 M | 1.421 M | ||
USA | 19.30 | ใบอนุญาติก่อสร้างที่อยู่อาศัย | 1.750 M | 1.682 M | ||
USA | 21.00 | ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.มิชิแกน | 89.0 | 89.0 |
Copyright © 2018 www.gcap.co.th All rights reserved.