สนใจเทรดออนไลน์
สมัครเทรดออนไลน์
นายชาร์ลส์ เอช ดาว คิดค้นทฤษฎีดาวในคริสต์ศตวรรษที่ 19 และเริ่มแรกใช้เพื่ออธิบายการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น แต่เพราะทฤษฎีดาวช่วยสร้างทิศทางของตลาด ทฤษฎีดาวจึงกลายเป็นเครื่องมือสากลที่สามารถประยุกต์ใช้กับสินทรัพย์ประเภทอื่น พื้นฐานของทฤษฎีดาวคือเป็นตัวชี้วัดสุขภาพทั่วไปของตลาด โดยอ้างอิงจากแนวความคิดพื้นฐาน
ทฤษฏีดาวได้แบ่งแนวโน้มราคาออกเป็น 3 กลุ่ม ตามระยะเวลา ดังนี้
Primary Trend — แนวโน้มใหญ่ หรือเป็นแนวโน้มระยะยาว โดยปกติจะใช้เวลา 200 วันขึ้นไป และอาจยาวนานถึง 4 ปี ซึ่งแบ่งเป็น
ขาขึ้น: จุดต่ำสุดใหม่จะสูงกว่าจุดต่ำสุดเก่า, จุดสูงสุดใหม่จะสูงกว่าจุดสูงสุดเก่า และระยะเวลาทีหุ้นวิ่งขึ้นจะยาวกว่าระยะเวลาที่หุ้นวิ่งลง
ขาลง: จุดต่ำสุดใหม่จะต่ำกว่าจุดต่ำสุดเก่า, จุดสูงสุดใหม่จะต่ำกว่าจุดสูงสุดเก่า และระยะเวลาทีหุ้นวิ่งลงจะยาวกว่าระยะเวลาที่หุ้นวิ่งขึ้น
Intermediate Trend — แนวโน้มรอง หรือเป็นแนวโน้มระยะกลาง เป็นระยะที่เบี่ยงเบนจากแนวโน้มใหญ่ โดยมากใช้ระยะเวลาตั้งแต่ 3 สัปดาห์จนถึงหลายเดือนก็ได้ โดยแนวโน้มรองนี้จะรวมตัวกันเป็นแนวโน้มใหญ่
Minor Trend — แนวโน้มย่อย หรือเป็นแนวโน้มระยะสั้น แนวโน้มย่อยนี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มรอง เป็นการเคลื่อนไหวของดัชนีเป็นรายวันถึงไม่เกิน 3 สัปดาห์ ซึ่งนักลงทุนจะไม่ให้ความสำคัญกับแนวโน้มนี้มากนักเพราะมีความผันผวนสูง มักมองเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแนวโน้มรองและแนวโน้มใหญ่
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.stock2morrow.com/article-detail.php?id=1171
https://fxscouts.com/th
Copyright © 2018 www.gcap.co.th All rights reserved.